คุณกำลังคิดจะเริ่มนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง? หลายคนมักกังวลว่าจะมีค่าใช้จ่ายแอบแฝง พิธีการยุ่งยาก หรือสินค้าจะติดปัญหา วันนี้เราจะพาคุณรู้จัก 5 สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมให้พร้อม ก่อนนำเข้าสินค้าครั้งแรก เพื่อให้การเริ่มต้นของคุณราบรื่นและประสบความสำเร็จ!
1. เอกสารที่จำเป็น – อย่าให้ขาดตกบกพร่อง
การนำเข้าสินค้าต้องใช้เอกสารหลายอย่าง หากขาดแม้แค่ชิ้นเดียว อาจทำให้สินค้าของคุณติดค้างที่ศุลกากรได้ นี่คือเอกสารหลักที่คุณต้องเตรียม:
เอกสารพื้นฐานที่ขาดไม่ได้:
📄 Invoice (ใบแจ้งหนี้/ใบกำกับการค้า)
- ระบุรายละเอียดสินค้า ราคา จำนวน
- ต้องตรงกับความเป็นจริง 100% เพราะใช้คำนวณภาษี
- ควรเป็นภาษาอังกฤษ มี Letterhead ของซัพพลายเออร์
📦 Packing List (บัญชีรายการสินค้า)
- แสดงรายละเอียดการบรรจุหีบห่อ
- น้ำหนักสุทธิ (Net Weight) และน้ำหนักรวม (Gross Weight)
- ขนาดและจำนวนกล่อง/พาเลท
🚢 Bill of Lading – B/L (ใบตราส่งสินค้า)
- หลักฐานการรับสินค้าขึ้นเรือ/เครื่องบิน
- ใช้เป็นเอกสารรับสินค้าที่ปลายทาง
- ต้องตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องทันทีที่ได้รับ
🌏 Certificate of Origin – C/O (หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า)
- ใช้สำหรับขอลดหย่อนภาษีตาม FTA (ถ้ามี)
- แสดงว่าสินค้ามาจากประเทศไหน
- ออกโดยหน่วยงานที่มีอำนาจในประเทศต้นทาง
เอกสารเพิ่มเติม (ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า):
- ใบอนุญาต อย. – สำหรับอาหาร เครื่องสำอาง อาหารเสริม
- มาตรฐาน มอก. – สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมบางประเภท
- ใบรับรองคุณภาพ – Certificate of Analysis (COA) สำหรับสินค้าเฉพาะ
- ฉลากภาษาไทย – สำหรับสินค้าที่จะจำหน่ายในประเทศ
💡 เคล็ดลับจาก CPO2000:
“เอกสารไม่ครบ คือสาเหตุอันดับ 1 ที่ทำให้สินค้าติดศุลกากร เราแนะนำให้ลูกค้าส่งเอกสารให้เราตรวจสอบล่วงหน้าอย่างน้อย 3-5 วัน ก่อนสินค้าถึงไทย ด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปี เราจะช่วยเช็กความพร้อมและแจ้งเตือนหากมีอะไรขาด”
2. งบประมาณที่ต้องเตรียม – รู้จริง ไม่ตกใจทีหลัง
หลายคนมักคำนวณแค่ราคาสินค้า + ค่าขนส่ง แต่จริงๆ แล้วมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกมากที่ต้องเตรียมไว้ มาดูกันว่าต้องเตรียมเงินอะไรบ้าง:
ค่าใช้จ่ายหลักที่ต้องมี:
1. ราคาสินค้า (Product Cost)
- ราคา FOB/CIF ตามที่ตกลงกับซัพพลายเออร์
- ควรมี Safety Margin 10-15% สำหรับความผันแปร
2. ค่าขนส่งระหว่างประเทศ (International Freight)
- ทางเรือ: ถูกกว่า แต่ใช้เวลา 7-21 วัน (ขึ้นอยู่กับจุดหมาย)
- ทางอากาศ: เร็วกว่า (3-7 วัน) แต่ค่าใช้จ่ายสูงกว่า 3-5 เท่า
- ราคาขึ้นลงตามฤดูกาล – Peak Season (ก.ย.-ธ.ค.) แพงกว่าปกติ 20-50%
3. ภาษีอากรและภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ภาษีอากรขาเข้า (Import Duty): 0-30% ขึ้นอยู่กับ HS Code
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT): 7% (คำนวณจาก CIF + Duty)
- สูตรคำนวณ:
- มูลค่า CIF = FOB + Freight + Insurance
- Duty = CIF × อัตราภาษี (ตาม HS Code)
- VAT = (CIF + Duty) × 7%
4. ค่าดำเนินการศุลกากร (Customs Clearance)
- ค่าธรรมเนียมการยื่นเอกสาร
- ค่าบริการ Customs Broker (ถ้าจ้าง)
- ค่าตรวจปล่อยสินค้า
5. ค่าใช้จ่ายปลายทาง (Destination Charges)
- ค่าธรรมเนียมท่าเรือ/สนามบิน
- ค่า Container Handling
- ค่าขนส่งจากท่า/สนามบินไปยังที่อยู่ของคุณ
6. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
- ค่าประกันภัยขนส่ง (แนะนำ 0.3-0.5% ของมูลค่าสินค้า)
- ค่าจัดเก็บสินค้า (ถ้าดึงช้า)
- ค่าธรรมเนียมธนาคาร (T/T, L/C)
📊 ตัวอย่างการคำนวณจริง:
สมมติคุณนำเข้าสินค้าจากจีน:
- ราคาสินค้า (FOB): 100,000 บาท
- ค่าขนส่งทางเรือ: 15,000 บาท
- ค่าประกันภัย: 500 บาท
- CIF = 115,500 บาท
- ภาษีอากร 10%: 11,550 บาท
- VAT 7%: (115,500 + 11,550) × 7% = 8,894 บาท
- ค่าดำเนินการศุลกากร: 3,000 บาท
- ค่าขนส่งภายในประเทศ: 2,500 บาท
💰 ต้นทุนรวมทั้งหมด = 141,444 บาท
💡 เคล็ดลับจาก CPO2000:
“ราคาที่เราเสนอเป็น ราคาที่ชัดเจน ไม่มีค่าแอบแฝง ลูกค้ารู้ตั้งแต่แรกว่าต้องจ่ายเท่าไร เรายังช่วยวางแผนงบประมาณให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณอีกด้วย”
3. Timeline ที่ต้องรู้ – วางแผนให้ดี ไม่มีสต๊อกหมด
การนำเข้าสินค้าไม่ใช่กดสั่งวันนี้ พรุ่งนี้ได้ของ คุณต้องเข้าใจ Timeline ที่แท้จริงเพื่อวางแพลนสต๊อกให้เหมาะสม:
📅 Timeline มาตรฐาน (จีน-ไทย):
ขั้นตอนที่ 1: การสั่งซื้อและผลิต
- สั่งสินค้า + จ่ายเงินมัดจำ: 1-2 วัน
- ผลิตสินค้า: 7-30 วัน (ขึ้นอยู่กับ Product)
- ตรวจสอบคุณภาพ + บรรจุหีบห่อ: 2-3 วัน
ขั้นตอนที่ 2: การขนส่งระหว่างประเทศ
- ทางเรือ (Sea Freight):
- จีน → ไทย: 7-14 วัน
- ยุโรป → ไทย: 25-35 วัน
- อเมริกา → ไทย: 20-30 วัน
- ทางอากาศ (Air Freight):
- จีน → ไทย: 3-5 วัน
- ยุโรป/อเมริกา → ไทย: 5-7 วัน
ขั้นตอนที่ 3: พิธีการศุลกากร
- การยื่นเอกสาร: 1 วัน
- ตรวจปล่อยสินค้า: 1-3 วัน
- การชำระภาษีและรับของ: 1 วัน
ขั้นตอนที่ 4: ขนส่งภายในประเทศ
- กรุงเทพฯ และปริมณฑล: 1-2 วัน
- ต่างจังหวัด: 2-4 วัน
⏱️ Timeline รวมโดยประมาณ:
| เส้นทาง | ทางเรือ | ทางอากาศ |
|---|---|---|
| จีน | 30-45 วัน | 20-25 วัน |
| ยุโรป | 50-65 วัน | 25-30 วัน |
| อเมริกา | 45-60 วัน | 25-30 วัน |
หมายเหตุ: ยังไม่รวมเวลาผลิตสินค้า
⚠️ ปัจจัยที่ทำให้ล่าช้า:
- วันหยุดนักขัตฤกษ์ (Chinese New Year, Golden Week)
- Peak Season (ก.ย.-ธ.ค.)
- สภาพอากาศไม่ดี
- เอกสารไม่ครบ/ผิดพลาด
- สินค้าต้องตรวจสอบพิเศษ (Random Check)
4. การเลือก Freight Forwarder – พาร์ทเนอร์ที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ
การเลือก Freight Forwarder ที่ดีเปรียบเสมือนการหาพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ พวกเขาจะเป็นตัวกลางที่จัดการเรื่องยากๆ ทั้งหมดให้คุณ แล้วจะเลือกอย่างไรให้ได้ที่ดีที่สุด?
✅ สิ่งที่ต้องพิจารณา:
1. ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ
- ทำธุรกิจมานานแค่ไหน (อย่างน้อย 5-10 ปี)
- เชี่ยวชาญเส้นทางที่คุณต้องการหรือไม่
- มีความรู้เรื่อง Customs และ Regulations
2. บริการครบวงจร (One-Stop Service)
- Freight Forwarding ทั้งทางเรือและอากาศ
- Customs Clearance
- ขนส่งภายในประเทศ
- คลังสินค้า (ถ้าจำเป็น)
- ประกันภัยขนส่ง
3. เครือข่ายและพันธมิตร
- มีพันธมิตรในประเทศต้นทาง (จีน, ยุโรป, อเมริกา) หรือไม่
- ความสัมพันธ์กับสายเรือ/สายการบิน
- เครือข่ายทั่วโลก
4. ความโปร่งใสและราคายุติธรรม
- ใบเสนอราคาชัดเจน แยกรายการละเอียด
- ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง
- มีเงื่อนไขการชำระเงินที่ยืดหยุ่น
5. สอบถามสถานะการขนส่ง
- แจ้งสถานะทุกขั้นตอน
- ติดต่อง่าย ตอบเร็ว
6. ความน่าเชื่อถือและรีวิวลูกค้า
- ตรวจสอบรีวิวและคำแนะนำจากลูกค้าเก่า
- ชื่อเสียงในวงการ
- การจัดการเมื่อเกิดปัญหา
❌ สัญญาณเตือนที่ควรหลีกเลี่ยง:
- เสนอราคาถูกผิดปกติ (อาจมีค่าแอบแฝง)
- ติดต่อยาก ตอบช้า
- ไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจ Freight Forwarder
- ไม่ชัดเจนในเรื่องค่าใช้จ่าย
- ไม่มีระบบติดตามสินค้า
💡 ทำไมต้อง CPO2000?
✨ ประสบการณ์ยาวนานกว่า 25 ปี – เข้าใจทุกความท้าทายในการนำเข้า-ส่งออก
🌏 เครือข่ายครอบคลุมทั่วโลก – จีน ยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย เอเชีย พร้อมพันธมิตรที่แข็งแกร่ง
⚡ บริการรวดเร็ว – Express Service และ Customs Clearance ที่รวดเร็ว
🎯 One-Stop Service – ครบจบในที่เดียว ไม่ต้องจัดการหลายเจ้า
💎 โปร่งใส ไม่มีค่าแอบแฝง – ใบเสนอราคาชัดเจน ละเอียดทุกรายการ
👨💼 ทีมงานมืออาชีพ – Customs Broker ที่เชี่ยวชาญ พร้อมให้คำปรึกษา
5. การเตรียมความพร้อมทางกฎหมายและภาษี
ก่อนเริ่มนำเข้า คุณควรเตรียมความพร้อมด้านกฎหมายและภาษีให้เรียบร้อย:
📋 สิ่งที่ควรจัดการ:
1. เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร
- ใช้สำหรับดำเนินการศุลกากร
- สามารถใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 13 หลักทั่วไป
- หรือจดทะเบียนนิติบุคคล (แนะนำสำหรับธุรกิจระยะยาว)
2. การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
- ถ้าจดทะเบียน VAT สามารถขอคืนภาษีซื้อได้
- เหมาะกับผู้ที่นำเข้าเป็นประจำหรือปริมาณมาก
3. ทำความเข้าใจ HS Code
- รหัสพิกัดศุลกากร 8-10 หลัก
- กำหนดอัตราภาษีและเงื่อนไขการนำเข้า
- ต้องใช้ให้ถูกต้อง มิฉะนั้นอาจโดนปรับ
4. ตรวจสอบสินค้าต้องห้ามและสินค้าต้องกำกัด
- สินค้าบางประเภทห้ามนำเข้า (เช่น บุหรี่ไฟฟ้าบางชนิด)
- สินค้าบางประเภททต้องขออนุญาตพิเศษ (อย., มอก.)
5. ใบอนุญาตและมาตรฐาน
- อย. สำหรับ อาหาร เครื่องสำอาง อาหารเสริม ยา
- มอก. สำหรับ สินค้าอุตสาหกรรมบางประเภท
- ใบรับรองอื่นๆ ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า
💡 เคล็ดลับจาก CPO2000:
“ทีม Customs Broker ของเราช่วยตรวจสอบ HS Code ให้ถูกต้อง และแนะนำขั้นตอนการขออนุญาตที่จำเป็น คุณไม่ต้องกังวลเรื่องกฎหมาย เราดูแลให้ครบถ้วนตามระเบียบ”
🎯 สรุป: Checklist ก่อนนำเข้าครั้งแรก
ก่อนกดสั่งสินค้า เช็กให้ครบทั้ง 5 ข้อนี้:
✅ เอกสาร – มีครบ และถูกต้องหรือยัง?
✅ งบประมาณ – คำนวณต้นทุนจริงแล้วหรือยัง?
✅ Timeline – วางแผนสต๊อกตาม Lead Time หรือยัง?
✅ Freight Forwarder – เลือกผู้ให้บริการที่เชื่อถือได้แล้วหรือยัง?
✅ ความพร้อมทางกฎหมาย – เอกสารทางกฎหมายพร้อมหรือยัง?
🚀 พร้อมเริ่มต้นแล้ว? ให้ CPO2000 ดูแลคุณ!
CPO2000 – Cargo Pacific Oversea พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ที่คุณไว้วางใจได้ตั้งแต่วันแรก
🎁 สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่:
✨ ปรึกษาฟรี! ทีมงานมากประสบการณ์ 20+ ปี พร้อมให้คำแนะนำ
✨ ใบเสนอราคาฟรีภายใน 24 ชม. ชัดเจน ละเอียด ไม่มีค่าแอบแฝง
✨ ตรวจสอบเอกสารฟรี ช่วยเช็กความพร้อมก่อนส่งสินค้า
📞 ติดต่อเราวันนี้:
โทร: 02-712-0967
Email: support@cpo2000.com
Line: 
📚 บทความแนะนำเพิ่มเติม:
- การนำเข้าเครื่องจักรและส่วนประกอบ
- Courier Service คืออะไร? ต่างจาก Freight Forwarder อย่างไร
- ประกันภัยขนส่งสินค้า: คุ้มครองอะไรบ้าง
#นำเข้าสินค้า #FreightForwarder #CustomsBroker #ชิปปิ้งจากจีน #ส่งออกสินค้า #CPO2000
บทความนี้จัดทำโดย CPO2000 – Cargo Pacific Oversea | ผู้เชี่ยวชาญด้าน Freight Forwarding และ Customs Broker มากว่า 20 ปี







